- ปาเก้เป็นไม้ซึ่งอยู่ได้ด้วยกาว ดังนั้น พื้นปาเก้จึงเป็น พื้นที่อ่อนแอ กับอาการ น้ำท่วม อย่างยิ่ง เพราะทั้งไม้ ก็จะบวมขึ้นมา กาวก็จะหลุดล่อน ดังนั้นเมื่อ น้ำท่วมพื้นปาเก้ก็ต้องมีปัญหาแน่นอน อย่าไปโทษช่างทำปาเก้ หรือ อย่าไป คิดอะไรมาก
- หากน้ำท่วมสัก 5-7 วัน นอกจากปาเก้จะหลุดล่อนลอยน้ำ ปูดโปนขึ้นมาแล้ว ยังจะมี อาการ "บูดเน่า" ให้เกิดกลิ่นเหม็น และอาจ เป็นอันตราย น้อย ๆ หากต้อง สูดดมอยู่ตลอด ทั้งวันทั้งคืน
- หากปาเก้เปียกน้ำสักเล็กน้อย ไม่ถึงกับหลุดล่อนปูดโปนไม่ต้องทำอะไรมาก เช็ดทำความสะอาด แล้วปล่อยทิ้งไว้ เปิดหน้าต่าง ประตู ให้อากาศถ่ายเท ความชื้นออกไป ไม่กี่วันปาเก้ก็อาจเข้ารูปเดิมปกติได้ แต่มีข้อที่น่าคิดก็คือ อย่าเอาน้ำมัน หรือแลคเกอร์ หรือแว็กซ์ ไปทาทับตอนที่ปาเก้ยังชื้นอยู่ เพราะ สารเหล่านั้น จะไปเคลือบ ผิวไม้ ทำให้ความชื้น ในเนื้อไม้ (และเนื้อพื้นคอนกรีต ใต้ปาเก้) ไม่ระเหยออกมา
- หากปาเก้มีอาการหนัก บิดงอ ปูดโปน เบี้ยวบูด ผุกร่อน เหม็นเน่า…กรุณาอย่าเสียดาย กรุณาเลาะออกมา หากเลาะออกมาแล้ว ยังอยู่ในสภาพดี ก็ผึ่งลมเอาไว้ให้แห้ง เผื่ออาจมีประโยชน์ในวันหลัง
- หากเลาะพื้นปาเก้ออกมีข้อคิดว่า หากจะปูอะไรทับแทนก็ต้องระวังเรื่องน้ำหนักของวัสดุที่จะปูแทนนั้น ว่าหนักมากไหม หากหนักมาก ก็ต้องดูระบบโครงสร้างบ้านเราด้วยว่ามีความแข็งแรงไหม (ถามช่างผู้รู้ ให้ช่วย ดูก็ได้) เพราะปาเก้นั้น เป็นไม้ น้ำหนักเบา พื้นที่หนึ่งตารางเมตร อาจจะหนักเพียง 5 กิโลกรัม แต่พื้นหินอ่อน หรือแกรนิต น้ำหนักรวมปูนทราย ที่ใช้ปู หนึ่งตารางเมตรอาจหนักตั้ง 120 กิโลกรัม
- หากจะปูปาเก้เช่นเดิม (เพราะชอบความเป็นไม้ที่ให้ความนุ่มนวล) หรือปูวัสดุอื่นที่ใช้ "กาว" เป็นตัว ประสาน กรุณาอย่า ปูทับลงทันที ต้องรอ ให้พื้นคอนกรีตแห้งก่อน (อาจใช้เวลาเป็นเดือน) แล้วจึงปูลงไปได้ ไม่เช่นนั้น รับรองว่าปูเท่าไรลงไป ก็ล่อนออกมาเท่านั้น
พื้นปาเก้ถูกน้ำท่วม ทำอย่างไร
ก่อนอื่นต้องขอภาวนาว่าพื้นปาเก้ที่บ้านคุณนั้น เป็นปาเก้พื้นชั้นล่าง ไม่ใช่ปาเก้พื้นชั้นบน แต่ที่ว่าน่าจะปาทิ้งหรือไม่นั้น ผมขออนุญาต เล่าและอธิบายดังนี้